วิธีรับมือสำหรับผู้ประกอบการ เมื่อธุรกิจรายได้หาย กำไรหด

          แน่นอนว่าในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ใครที่กำลังประกอบกิจการส่วนตัวทำธุรกิจต่าง ๆ อยู่ อาจประสบปัญหาในเรื่องของรายได้และกำไร ทั้งจากผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่เศรษฐกิจของประเทศไทยฟื้นตัวค่อนข้างช้า ไหนจะคู่แข่งต่าง ๆ ที่ต่างมีกลยุทธ์ใหม่ ๆ ตลอดจนคู่แข่งหน้าใหม่เข้ามาแข่งขันจนทำให้การประกอบธุรกิจของเรายากลำบากขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก

           และถ้าหากธุรกิจของเราเริ่มส่งสัญญาณการถดถอย ทั้งรายได้ลดลง กำไรลดลง เราเองในฐานะเจ้าของอาจจะต้องหันมาวิเคราะห์ทบทวนรีบปรับกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อประคองธุรกิจของเราให้สามารถดำเนินกิจการ และกลับมามีกำไร ตลอดจนผลประกอบการที่ดีอีกครั้ง ไหนดี จึงมาแนะนำแนวทางหากธุรกิจรายได้หาย กำไรหด ควรทำอย่างไร ลองไปดูรายละเอียดกันได้เลย

ธุรกิจรายได้หาย กำไรหด ควรทำอย่างไร ?

  • วิเคราะห์ธุรกิจตัวเอง

         อย่างแรกเลย เราต้องหันมาสำรวจตัวธุรกิจของเราเองก่อน ในมุมมองต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์และพยายามหาสาเหตุของปัญหาที่ทำให้รายได้ของเราลดลง เช่น

  • ปัจจัยภายในของธุรกิจ เช่น ต้นทุนในการดำเนินงานต่าง ๆ, การทำการตลาด, หนี้สินของธุรกิจ หรือเจ้าของ, สินค้าและบริการของเราเป็นอย่างไร เป็นต้น
  • ปัจจัยภายนอกของธุรกิจ เช่น ต้นทุนวัตถุดิบ, คู่แข่งขันในตลาด, รสนิยมของลูกค้า, สินค้าและบริการอื่น ๆ ที่เข้ามาทดแทน เป็นต้น
  • สำรวจความพึงพอใจและความต้องการของลูกค้า

          ผู้ประกอบการหลายคน มักทำการตลาดแบบสื่อสารทางเดียว คือ สื่อสารแคมเปญการตลาดจากธุรกิจไปสู่ลูกค้า แต่ไม่เคยมีช่องทางหรือรับฟังปัญหาที่เกิดจากการซื้อสินค้าและบริการของเราจากลูกค้าเลย หรือบางทีอาจจะมีช่องทางที่เก็บความคิดเห็นเห็นหรือข้อเสนอแนะของลูกค้า แต่กลับไม่รับฟังความคิดเห็นเหล่านั้น ดังนั้น หากธุรกิจเกิดปัญหารายได้ลดลง กำไรถดถอย ก็ควรถึงเวลาแล้วที่จะต้องรับฟังเสียงจากลูกค้าบ้าง ว่าธุรกิจของเรามีปัญหาที่ตรงไหน, ต้องการให้ธุรกิจของเราปรับปรุงสินค้าและการบริการต่าง ๆ ให้ดีขึ้นอย่างไร ฯลฯ

  • ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย

          ในยุคปัจจุบัน โลกของการค้าขายออนไลน์ ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ตลอดจนการเกิดขึ้นของหุ้นส่วนทางธุรกิจต่าง ๆ มากมายที่พร้อมจะสนับสนุนธุรกิจของเราภายใต้การจัดสรรผลประโยชน์ระหว่างกัน ดังนั้น การค้าขายผ่านช่องทางเดิม ๆ ที่เมื่อก่อนเคยได้ผล อาจจะไม่สะดวกต่อลูกค้าเหมือนเดิมอีกต่อไป จึงทำให้ธุรกิจของเราควรเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินค้าและบริการที่หลากหลาย เช่น การเปิดร้านค้าออนไลน์บนช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Shopee, Lazada, Facebook, TikTok เป็นต้น ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสการขายให้กับลูกค้ากลุ่มใหม่ด้วย

  • สร้างการเติบโตใหม่ให้กับธุรกิจ

          หากเราทำทุกวิถีทางแล้ว แต่ผลประกอบการยังไม่ดีขึ้นหรือทรงตัว นั่นคือสัญญาณว่าธุรกิจของเราอาจกำลังเข้าสู่ภาวะอิ่มตัวแล้ว และกำลังเข้าสู่ช่วงถดถอยอันเป็นวัฏจักรของธุรกิจที่ทุกที่ต้องเผชิญ ดังนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องทำเมื่อประเมินว่าธุรกิจของเรากำลังเข้าสู่ภาวะนี้หรือไม่ คือ การหาสินค้าและบริการต่าง ๆ เข้ามาทดแทน หรือปรับเปลี่ยนธุรกิจใหม่จากพื้นฐานธุรกิจเดิมให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ เช่น

  • ธุรกิจร้านถ่ายรูปอัดรูป – ที่ปัจจุบันอาจเสื่อมความนิยมลงไปอย่างมากจากการเข้ามาของกล้องดิจิทัลและโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผู้ประกอบการอาจจะต้องปรับเปลี่ยนร้านของตนเป็นสตูดิโอถ่ายรูปแต่งงาน, เช่าชุดในโอกาสต่าง ๆ หรือรับถ่ายรูปตัดต่อวีดีโอในงานพิธีต่าง ๆ เป็นต้น
  • ร้านขายของชำ – ที่อาจโดนร้านสะดวกซื้อสมัยใหม่เข้ามาแย่งตลาด ก็ปรับตัวเป็นร้านจำหน่ายสุรา – เบียร์ขนาดเล็กที่มีพื้นที่ให้ลูกค้ามานั่งรับประทานหน้าร้าน พร้อมจำหน่ายอาหารกับแกล้มต่าง ๆ ฯลฯ

Natthasit S.

ผู้สนใจและศึกษาในด้านการเงินและการลงทุน, การพัฒนาธุรกิจ ทรัพยากรมนุษย์ และการบริหารองค์กร โดยมีประสบการณ์เป็นที่ปรึกษา Dealer Business Partner Advisor ให้กับกลุ่ม SCG และประสบการณ์ทำงานในบริษัทสินเชื่อเช่าซื้อที่โตโยต้า ลีสซิ่ง Toyota Leasing (Thailand)

ไหนดี
Logo