แบตเตอรี่ iPhone เตรียมขึ้นราคา รีบเปลี่ยนก่อนจ่ายแพงขึ้น

          “iPhone” ถือเป็นโทรศัพท์ยอดนิยมของใครหลาย ๆ คนในปัจจุบัน ทั้งในเรื่องของภาพลักษณ์ของแบรนด์, ฟังก์ชันการใช้งาน, ความปลอดภัย ฯลฯ ทำให้ในประเทศไทยมีผู้ใช้ iPhone เป็นจำนวนมาก แต่แน่นอนว่าในการซื้อโทรศัพท์สักเครื่อง สิ่งที่ตามมาที่หลายคนอาจจะยังไม่ได้นึกถึง นั่นก็คือในเรื่องของการดูแลรักษาซ่อมบำรุง เพราะการซื้อโทรศัพท์ที่มีราคาค่อนข้างสูง หลาย ๆ คนอาจจะใช้งานยาวนานมากกว่า 2 ปีขึ้นไปแน่นอน และชิ้นส่วนที่เสื่อมสภาพเร็วที่สุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ “แบตเตอรี่” นั่นเอง

          ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ทางบริษัท Apple ผู้ผลิตโทรศัพท์ iPhone ก็ได้มีการประกาศว่าจะมีการขึ้นราคาเปลี่ยนแบตเตอรี่ ไหนดี จึงรีบมาแจ้งทุกคน หากโทรศัพท์ iPhone ในมือของใครแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมแล้วละก็ จะได้รีบไปเปลี่ยนกันก่อนที่ราคาจะขึ้น ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปดูกันได้เลย

ทำไมแบตเตอรี่ iPhone ถึงขึ้นราคา ?

            เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกทำให้ต้นทุนสินค้าหลายอย่างปรับตัวเพิ่มขึ้น ตลอดจนภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้ค่าเงินผันผวนกระทบต่อราคาจำหน่ายอุปกรณ์หลาย ๆ อย่างของ Apple ในหลาย ๆ ประเทศ

แบตเตอรี่ iPhone จะปรับขึ้นราคาเมื่อไหร่ ?

            จากการประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์ support.apple.com ได้ระบุว่าจะมีการปรับขึ้นราคาแบตเตอรี่ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป

แบตเตอรี่ iPhone จะขึ้นราคาเท่าไหร่ ?

            สำหรับการประกาศขึ้นราคาของแบตเตอรี่ iPhone ในครั้งนี้จะมีการปรับขึ้นการเปลี่ยนแบตเตอรี่รุ่นก่อน iPhone 14 ของ Apple ทั้งหมด โดยราคาค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่จะมีการปรับขึ้น ไหนดี สรุปให้ ดังนี้

รุ่น iPhone

ราคาประมาณการแบตเตอรี่ที่ปรับขึ้น

iPhone SE

1,600 ปรับขึ้นเป็น 2,590

iPhone 6

1,600 ปรับขึ้นเป็น 2,590

iPhone 7

1,600 ปรับขึ้นเป็น 2,590

iPhone 8

1,600 ปรับขึ้นเป็น 2,590

iPhone x

2,300 ปรับขึ้นเป็น 3,290

iPhone 11

2,300 ปรับขึ้นเป็น 3,290

iPhone 12

2,300 ปรับขึ้นเป็น 3,290

iPhone 13

2,300 ปรับขึ้นเป็น 3,290

 

เมื่อไหร่ถึงควรจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone ของเรา ?

            สำหรับการใช้งานแบตเตอรี่ iPhone ของทุกคนนั้น ไหนดี แนะนำว่าควรเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อมีสุขภาพแบตเตอรี่ต่ำกว่า 80% โดยเราสามารถเข้าไปตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ iPhone ได้ที่

  1. เข้าไปที่เมนู “ตั้งค่า” แล้วเลือก “แบตเตอรี่”
  2. จากนั้นคลิกเข้าไปที่ “สุขภาพแบตเตอรี่”
  3. แล้วดู % ของแบตเตอรี่ได้ที่ “ความจุสูงสุด”

Natthasit S.

ผู้สนใจและศึกษาในด้านการเงินและการลงทุน, การพัฒนาธุรกิจ ทรัพยากรมนุษย์ และการบริหารองค์กร โดยมีประสบการณ์เป็นที่ปรึกษา Dealer Business Partner Advisor ให้กับกลุ่ม SCG และประสบการณ์ทำงานในบริษัทสินเชื่อเช่าซื้อที่โตโยต้า ลีสซิ่ง Toyota Leasing (Thailand)

ไหนดี
Logo