บ้านหรือรถ ถึงแม้จะสำคัญต่างกันตามบริบท แต่ทั้งบ้านและรถนั้นล้วนแต่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิต ซึ่งบ้านต่างรู้กันดีว่าเป็นที่อยู่อาศัย ใช้ในทำกิจกรรมประจำวันต่าง ๆ ของคนภายในครอบครัว เช่น การอาบน้ำ ทำกับข้าว นอนหลับพักผ่อน เป็นต้น
ส่วนรถยนต์ เป็นพาหนะที่ใช้ในการเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เช่น การเดินทางไปทำงาน การเดินทางไปโรงพยาบาล การเดินทางไปเที่ยว เป็นต้น แล้วระหว่างการซื้อบ้านหรือซื้อรถยนต์อันไหนดีกว่า ไหนดี มีคำตอบ
ความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต
การซื้อรถสักคันหรือบ้านสักหลัง ล้วนแล้วต้องใช้ทุนทรัพย์จำนวนไม่น้อย แม้ว่าในปัจจุบันมีช่องทางในการซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเงินสดหรือเงินผ่อน ซึ่งหากเป็นเงินผ่อนต้องคิดให้ละเอียดรอบคอบ เนื่องจากเงื่อนไขและดอกเบี้ยในการชำระต่อเนื่องหลายปี การตัดสินใจว่าสิ่งไหนจำเป็นกับการดำรงชีวิตเรามากที่สุด มีดังนี้
- บ้าน : ถ้าบุคคลที่จำเป็นต้องเช่าที่อยู่อาศัย การซื้อบ้านน่าจะเป็นคำตอบที่ดี เนื่องจากต้องจ่ายค่าเช่ารายเดือนเพียงแค่เปลี่ยนค่าเช่ารายเดือนมาเป็นค่าผ่อนบ้าน แล้วจะได้ทรัพย์สินเป็นของตัวเองในอนาคต
- รถยนต์ : คนที่มีความจำเป็นในการเดินทางไปทำงานทุกวันหรือใช้รถในการประกอบอาชีพหรืออำนวยความสะดวกในการเดินทาง รถยนต์ก็ตอบโจทย์ชีวิตได้ดี ความจำเป็นในการดำรงชีวิตเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อรถก่อนจะเป็นอันดับแรก
ความสามารถในการซื้อ
สถานภาพทางการเงินเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการตัดสินใจซื้ออันไหนก่อนดี เนื่องจากการที่จะซื้อทั้ง 2 สิ่งนี้จำเป็นจะต้องใช้เงินจำนวนมาก เช่น
- ถ้าเป็นรถยนต์ก็จะมีราคาที่ถูกกว่าซื้อบ้าน ถ้าผ่อนก็จะมีระยะเวลาในการผ่อนน้อยกว่า
- ถ้าซื้อบ้านก็จะมีมูลค่ามากกว่า ใช้ระยะเวลาในการผ่อนนาน ดังนั้นต้องประเมินความสามารถในการซื้อว่ามีกำลังในการซื้อเพียงพอต่อทรัพย์สินดังกล่าวหรือไม่
มูลค่าของทรัพย์สินในอนาคต
มูลค่าของทรัพย์สินเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรคำนึงถึงว่าควรซื้ออันไหนก่อนดี ซึ่งทั้งรถยนต์และบ้านก็จะมีมูลค่า, ราคา และค่าใช้จ่ายที่ต่างกัน
- รถยนต์
- มูลค่าจะลดลงตามอายุการใช้งาน หรือค่าเสื่อมสภาพ
- มีค่าซ่อมบำรุง
- มีค่าประกันรถ
- จ่ายภาษีประจำปี
- บ้านหรือที่อยู่อาศัย
- ราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี
- ราคาที่ดินปรับขึ้นตามราคาประเมินของกรมธนารักษ์
- มีค่าประกันบ้าน
- จ่ายภาษีประจำปี
แม้ว่าราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์จะปรับเพิ่มทุกปี แต่บ้านก็มีค่าต่อเติมและค่าซ่อมบำรุงตามเวลา ทั้งนี้ก็ยังรวมในราคาประเมินของมูลค่าชื้อขายได้ ถ้าหากอยากมีทรัพย์สินที่มีมูลค่าในอนาคตก็ควรตัดสินใจซื้อบ้าน นอกจากเป็นที่อยู่อาศัยแล้วยังมีโอกาสทำกำไรได้ในอนาคต
ระยะเวลาในการผ่อน
- การชื้อบ้านหรือชื้อรถยนต์ สามารถเลือกการผ่อนแต่ละเดือนตามความสามารถได้
- การผ่อนบ้านกับรถมีความแตกต่างกัน เช่น รถใช้ระยะเวลาผ่อนเพียง 5 ปี บ้านใช้เวลาผ่อน 25 ปี เป็นต้น
- สำหรับเด็กจบใหม่ที่อายุยังน้อย อาจวางแผนผ่อนรถยนต์ก่อนผ่อนบ้าน เพื่อเป็นการสร้างเครดิตไปด้วย
- การซื้อบ้านด้วยเงินผ่อนทำให้มีเครดิต และง่ายต่อการขอสินเชื่อซื้อบ้านในอนาคต
ความสามารถในการผ่อนชำระรายงวด (กรณีเงินผ่อน)
ควรพิจารณาถึงสภาพคล่องและปัจจัยอื่น ๆ ดังนี้
- ฐานเงินเดือนหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว คงเหลือมากน้อยแค่ไหน
- มีเงินดาวน์หรือไม่ หากไม่มีอาจจะต้องผ่อนมากขึ้น หากมีเงินดาวน์ก็จะผ่อนน้อยลงและดอกเบี้ยถูกลงด้วย
- การกู้ร่วมหรือกู้เดี่ยว เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนึ่งที่จะต้องพิจารณา เนื่องจากการกู้ร่วมจะช่วยให้ค่าใช้จ่ายรายเดือนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
การซื้อบ้านหรือรถยนต์ซื้ออันไหนก่อนดี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ไม่มีความแน่นอนตายตัวว่าซื้อบ้านหรือรถยนต์ก่อนดี มีปัจจัยหลาย ๆ อย่างในการตัดสินใจตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ดังนั้นการซื้อบ้านกับรถยนต์ ก็ถือเป็นทรัพย์สินของเราเช่นกัน