“อาชีพฟรีแลนซ์” คือ การรับจ้างทำงานอิสระตามทักษะ ความสามารถ หรือความชำนาญของตนเอง ซึ่งอาชีพนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ถือเป็นตัวเลือกหลักในการประกอบอาชีพของคนในยุคปัจจุบัน เนื่องจากค่อนข้างมีอิสระในการทำงาน และหากทำได้ดี ทำให้มีลูกค้าเข้ามาเป็นจำนวนมาก รายได้ก็จะดีตามไปด้วย บางครั้งอาจมีรายได้มากกว่าการเป็นพนักงานออฟฟิศเสียอีก
แต่การประกอบอาชีพฟรีแลนซ์ ไม่ได้มีเพียงข้อดีเสมอไป เนื่องจากการมีรายได้เข้ามาไม่แน่นอน อีกทั้งไม่มีอะไรมาการันตีว่านายจ้างเชื่อถือได้ ทำให้บางครั้งผู้ประกอบอาชีพฟรีแลนซ์ มักมีปัญหาในการไปขอกู้เงินจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เช่น การซื้อรถยนต์, การซื้อบ้าน หรือการทำบัตรเครดิต ฯลฯ ในวันนี้ไหนดี จึงอยากมาขอแนะนำ เทคนิคกู้เงินสำหรับฟรีแลนซ์ ทำอย่างไรให้ธนาคารอนุมัติ ไปดูรายละเอียดกันได้เลย
เทคนิคกู้เงินสำหรับฟรีแลนซ์ ทำอย่างไรให้ธนาคารอนุมัติแน่นอน
สำหรับผู้ประกอบอาชีพฟรีแลนซ์ การจะไปขอกู้เงินธนาคาร แล้วให้ธนาคารเชื่อถือในตัวเรา ว่ามีศักยภาพในการผ่อนชำระ มีเทคนิคแนะนำ ดังนี้
- เตรียมเอกสารทางการเงิน เพื่อแสดงความน่าเชื่อถือ โดยเราต้องแสดงให้ธนาคารเห็น ว่ามีรายได้เพียงพอต่อการชำระค่างวดแน่นอน โดยเอกสารที่ไหนดีแนะนำ ได้แก่ สัญญาจ้างที่ลูกค้าจ้างเราทำงานต่าง ๆ ยิ่งเยอะ ยิ่งดี หรือรายการเดินบัญชี (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน ที่แสดงรายรับจากลูกค้าที่โอนเป็นค่าจ้างของเรา
- เอกสารการชำระภาษี ยืนยันรายได้ที่มีมากเพียงพอ ไม้เด็ดอีกหย่างหนึ่งที่เราแนะนำ คือ ใบ ภงด. 90 หรือ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่จะแสดงให้เห็นรายรับของเรา ว่าอยู่ในเกณฑ์เท่าไหร่ ทำให้ทางธนาคารประมาณการรายรับ ได้จากเกณฑ์การจ่ายภาษีนั่นเอง และอย่าลืมชำระภาษีทุกปี เพื่อสร้างเครดิตให้กับตัวเราเองกันด้วยนะ
- ขอหลักฐานการชำระเงินของลูกค้าทุกครั้ง ทุกครั้งที่รับงานจากลูกค้า เราต้องมีหลักฐานประกอบการรับงาน เช่น สัญญาจ้างหรือใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น ซึ่งในอนาคตจะเป็นหลักฐานแสดงรายได้ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเรา เมื่อต้องขอกู้เงินจากสถาบันการเงินต่าง ๆ
- สร้างเครดิตตนเอง ไม่มีหนี้เสีย ซึ่งการที่เราไปขอกู้เงินจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ทางธนาคารจะทำการเช็คเครดิตบูโร หรือประวัติการชำระหนี้สินของเรา หากเราไม่มีประวัติหนี้เสีย ก็จะทำให้ทางธนาคารสามารถพิจารณาอนุมัติได้ง่ายขึ้น
- แสดงทรัพย์สินที่มี ทางธนาคารเองนอกจากการพิจารณารายได้ของเราแล้ว ทรัพย์สินที่เราถือครองก็จะถูกนำมาประกอบการพิจารณาด้วย เช่น โฉนดที่ดิน, ทองคำ, รถยนต์ เป็นต้น ถือเป็นเครื่องการันตีความน่าเชื่อถือของเราได้เป็นอย่างดี
- การกู้ร่วมสร้างโอกาสมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับการกู้ร่วม เช่น กู้ร่วมระหว่างบิดา-มารดากับบุตร หรือกับคู่สมรส เป็นต้น ทำให้มีโอกาสผ่านการพิจารณาจากธนาคารมากกว่าเดิม เพราะเมื่อมีคนมากู้ร่วมในสัญญาสองคน ก็เป็นเครื่องการันตีศักยภาพในการชำระหนี้คืน พร้อมดอกเบี้ยให้กับธนาคารอีกด้วย
- เก็บเงินออมก่อน เป็นหนี้ การที่เรามีเงินสดในบัญชีจำนวนหนึ่ง ถือเป็นตัวสร้างเครดิตให้กับเราได้ เนื่องจากเป็นการให้ทางธนาคาร สามารถนำไปพิจารณาอนุมัติ ว่าเรามีศักยภาพในการออมเงิน หรือมีเงินสดมากเพียงพอที่จะชำระหนี้สินคืน หรือจ่ายค่างวดคืนให้กับธนาคารได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่องนั่นเอง