เทคโนโลยีทางการสื่อสารของมนุษย์เราได้ก้าวไปไกลกว่าเดิมมากมาย มีช่องทางการสื่อสารต่างๆ ที่เข้ามารองรับและตอบสนองความต้องการในการติดต่อสื่อสารระหว่างกันหลายประเภท เมื่อเหล่าบรรดามิจฉาชีพเห็นช่องทางในการหลอกลวงในโลกออนไลน์ อาจทำให้ผู้หลงเชื่อให้ตกเป็นเหยื่อได้โดยง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลอกโอนเงิน
โดนหลอกโอนเงินใน Facebook ทำไง
ถ้ารู้ตัวแล้วเราเราเป็นหนึ่งในเหยื่อที่โดนมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินแล้ว ให้ทำดังนี้
- เตรียมเอกสาร เมื่อรู้ตัวว่าโดนหลอกให้รีบตั้งสติ การร้องไห้เสียใจหรือโทษตัวเองไม่มีประโยชน์ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการเก็บหลักฐานทุกอย่างเพื่อรีบไปแจ้งความดำเนินคดี
- หลักฐานการโอนเงิน
- ข้อความที่คุยกับมิจฉาชีพ
- ข้อความประกาศขายสินค้า
- เลขบัญชีธนาคาร พร้อมชื่อ นามสกุล ของผู้ที่เราโอนเงินไปให้ แคปหน้าจอไว้ แล้วปริ้นท์ออกมาเป็นหลักฐาน
- บัตรประชาชนของเรา
- แจ้งความดำเนินคดี หลังจากได้หลักฐานแล้วให้ไปโรงพักใกล้บ้าน หรือกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อแจ้งความ สามารถแจ้งขอให้อายัดบัญชีผู้ที่เราโอนเงินไปให้ และให้ดำเนินคดีได้ด้วย (อย่าแจ้งแค่ว่าขอให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน)
- แจ้งธนาคารเจ้าของบัญชีคนร้ายที่เราโอนเงินไปให้ เพื่อให้ธนาคารทำการอายัดเงินในบัญชีของคนร้ายทั้งหมด ทำให้คนร้ายไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ โดยหลักฐานที่ต้องนำไปมีดังนี้
- สำเนาหลักฐานใบแจ้งความ
- คำสั่งอายัดบัญชี
- หน้าสมุดบัญชี หรือเลขบัญชี พร้อมชื่อ นามสกุล เจ้าของบัญชีที่เป็นคนร้าย
- สำเนาบัตรประชาชนของเรา
- รอขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมาย โดยหลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการออกหมายเรียก คนร้ายหรือติดตามจับกุมตัวมาดำเนินการส่งฟ้องศาลต่อไป ให้เราประสานงานไปที่ร้อยเวรเจ้าของคดี เพื่อติดตามความคืบหน้า
ทำอย่างไรไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการหลอกหลวง ให้โอนเงิน
- ปรับ Mindset ของฟรีไม่มีในโลก ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ อย่าโลภจนลืมคิดวิเคราะห์เหตุผล
- ตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจ หากมีคนรู้จักแชทมายืมเงินให้ใช้วิธีโทรกลับไปถามต้นทางก่อนเพื่อยืนยันว่าเป็นคนรู้จักเราจริง หรือหากเป็นการซื้อสินค้า ให้ซื้อกับร้านค้าที่น่าเชื่อถือ เปิดมานาน มีคนรีวิวให้เครดิตร้าน
- ให้ข้อมูลส่วนตัวทของเรากับบริษัท บุคคลที่น่าเชื่อถือ และให้เท่าที่จำเป็น การให้เลขบัตรประชาชน , เลขบัญชีธนาคาร , บัตรเครดิต ไม่ควรให้กับบุคคลที่ไม่รู้จัก หรือไม่น่าเชื่อถือ เพราะมีความเสี่ยงที่จะถูกนำไปโจรกรรมข้อมูลทางการเงิน
- เปลี่ยนรหัส Facebook ตามระยะเวลาที่เรากำหนด เช่นทุก 1 เดือน 3 เดือน เพื่อป้องกันการแฮกข้อมูล หรือการใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะแล้วลืม Log out ออกจากระบบ
หลอกให้โอน มีช่องทางไหนที่ต้องระวังบ้าง
- การปลอม หรือ แฮก Facebook มิจฉาชีพจะทำการปลอมหรือแฮก Facebook ญาติ เพื่อน คนรู้จักของเรา ทำทีว่ากำลังเดือดร้อน ขอความช่วยเหลือยืมเงินก่อน โดยให้โอนมายังบัญชีที่อ้างตัวว่าเป็นของบุคคลที่ 3
- การส่งลิงค์หรือข้อความหลอกลวง มิจฉาชีพจะทำการส่งลิงค์หรือข้อความลวง ให้เรากรอกข้อมูลต่างๆ เช่น เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขบัตรเครดิต บัญชีธนาคาร รหัส ATM เพื่อนำข้อมูลไปโจรกรรมเงินของเราต่อไป
- หลอกว่าเราได้รับรางวัล มรดกต่างๆ มิจฉาชีพจะทำการแจ้งว่าเราได้รับรางวัลหรือเงินมรดก จากต่างประเทศ โดยหากจะรับรางวัลดังกล่าวต้องโอนเงินเพื่อชำระค่าดำเนินการ หรือภาษีต่างๆ ก่อนจึงจะโอนเงินให้
- นำสินค้าปลอมมาแอบอ้าง หรือหลอกให้โอนมัดจำสินค้า มิจฉาชีพจะทำเหมือนเป็นพ่อค้าออนไลน์ แต่ไม่ได้มีสินค้าจริงนำรูปสินค้าอื่นๆ มาแอบบอ้างแล้วหลอกให้เราโอนเงินหรือมัดจำเพื่อชำระสินค้า หลังจากได้เงินแล้วก็จะบล๊อคเฟส แล้วหนีหายไปซึ่งวีธีนี้เป็นวิธีที่เหยื่อนโดนหลอกกันมาก
- ประกาศรับสมัครงานเสริม งานพาร์ทไทม์ มิจฉาชีพจะทำทีเป็นนายจ้างประกาศหาคนทำงานเสริม หรือรับงานไปทำที่บ้าน แต่เมื่อตกลงจะให้โอนเงินมาเพื่อชำระค่าวัตถุดิบ หรือเป็นค่าธรรมเนียมการสมัครต่างๆ เมื่อได้เงินแล้วจะบล๊อคเฟซบุ๊ก แล้วหนีหายไป