แลกเปลี่ยนเงินตราคืออะไร ? แลกเปลี่ยนเงินได้ที่ไหนบ้าง ?

          บางครั้งเราจะได้ยินข่าวเศรษฐกิจ ที่พูดถึงเรื่องค่าเงินที่แข็งตัวขึ้นหรืออ่อนค่าลง แต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ส่งผลกระทบต่อเราหรือผู้ประกอบการอย่างไร วันนี้ ไหนดี ขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับตลาดการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศกัน

“การแลกเปลี่ยนเงินตรา” คืออะไร ?

          ปัจจุบันนั้นการค้าขายทั้งสินค้าและบริการไม่ได้จำกัดอยู่ในแต่ละประเทศเพียงอย่างเดียว เรามีการค้าขายกับชาติอื่นหลายประเทศ เมื่อมีการค้าขายเกิดขึ้นก็จำเป็นที่จะต้องมีการชำระค่าบริการหรือสินค้าในรูปของเงินตรา และด้วยความที่แต่ละประเทศใช้สกุลเงินที่แตกต่างกัน ทำให้เราต้องแลกเงินสกุลหนึ่งไปเป็นอีกสกุลหนึ่งโดยเทียบมูลค่าของเงินทั้งสองสกุล หรือเรียกว่า “อัตราแลกเปลี่ยน

ตัวอย่างเช่น

  • 1 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถแลกเป็นเงินบาทไทยได้ 34.62 บาทไทย
  • 1 ยูโร มีค่าเท่ากับ 39.94 บาทไทย

ซึ่งอัตราการแลกเปลี่ยนจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะตลาด

“ค่าเงินแข็งขึ้น” หรือ “ค่าเงินอ่อนลง” คืออะไร ?

          หากเราต้องการแลกเงินบาทเป็นเงินปอนด์สเตอร์ลิง (สกุลเงินประเทศอังกฤษ) ในวันนี้ คือ 45.32 บาท จะได้ 1 ปอนด์ฯ แต่สมมุติว่าพรุ่งนี้เราแลกโดยใช้แค่ 44.22 บาท เท่านั้น เราจะสังเกตได้ว่าเราใช้จำนวนเงินบาทน้อยลง ในการแลก 1 ปอนด์ฯ ศัพท์ทางการเงิน เราจะเรียกว่าเงินบาท “แข็งค่าขึ้น” 

          ในทางกลับกัน ถ้าอัตราแลกเปลี่ยนมาอยู่ที่ 46 บาท ต่อ 1 ปอนด์สเตอร์ลิง คือเราต้องใช้เงินบาทมากขึ้นเพื่อแลกเงิน 1 ปอนด์ฯ ก็คือ เงินบาท “อ่อนค่าลง” ในภาษาทางการเงิน

“ค่าเงินแข็งขึ้น” หรือ “ค่าเงินอ่อนลง” ส่งผลกับใคร ?

          ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากอัตราแลกเปลี่ยน ก็คือคนที่ต้องติดต่อซื้อขายกับต่างประเทศ เช่น ผู้นำเข้า, ผู้ส่งออก ฯลฯ

  • สำหรับผู้นำเข้า สมมติว่า เราซื้อนาฬิกาจากต่างประเทศเรือนละ 1,000 ดอลลาร์ ถ้าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจาก 33 บาท ไป 32 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เราจะจ่ายเงินซื้อนาฬิกาเพียง 32,000 บาท จากเดิม 33,000 บาท เห็นได้ว่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ทำให้ผู้นำเข้าได้ประโยชน์ เพราะจ่ายเงินน้อยลงนั่นเอง
  • สำหรับผู้ส่งออก ในทางกลับกัน ถ้าเราเป็นคนขายนาฬิกาไปต่างประเทศ เมื่อเงินบาทแข็งค่าขึ้น เรารับเงินมา 1,000 ดอลลาร์ แต่เมื่อไปแลกเป็นเงินบาทตอนนี้เราจะได้เงินเพียง 32,000 บาท แทนที่จะได้ 33,000 บาท กรณีนี้ คนขายกระเป๋าในฐานะผู้ส่งออกจะเสียเปรียบ

อัตราแลกเปลี่ยนขึ้นอยู่กับอะไร ?

  • ภาวะเศรษฐกิจโลก
  • การคาดการณ์และการเก็งกำไร
  • ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจในประเทศ
  • นโยบายการเงินและการคลัง
  • เสถียรภาพทางการเงินในประเทศ/ต่างประเทศ
  • ปัจจัยทางเทคนิค
  • จิตวิทยาตลาดและข่าวลือต่าง ๆ

แลกเงินต่างประเทศที่ไหนได้บ้าง ?

          โดยทั่วไปแล้วเราสามารถแลกเงินตราต่างประเทศได้กับธนาคารพาณิชย์หรือธนาคารของรัฐที่ให้บริการ แต่ก็อาจจะมีค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มได้ ซึ่งร้านแลกเงินที่ให้เรทดี มีดังนี้

  1. SuperRich Thailand สีเขียว เพิ่มเติม www.superrichthailand.com
  2. SuperRich SPR สีส้ม เพิ่มเติม www.superrich1965.com
  3. OH! RiCH เพิ่มเติม www.srtforex.com
  4. Twelve Victory Exchange เพิ่มเติม ww.twelvevictory.com
  5. X ONE Currency Exchange Center เพิ่มเติม www.x-one.co.th
  6. Vasu Exchange เพิ่มเติม www.vasuexchange.com
  7. K79 Exchange มีทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่
  8. Value Plus Currency Exchange เพิ่มเติม www.valueplusexchange.com
  9. Siam Exchange เพิ่มเติม www.siamexchange.co.th
  10. SIA Money Exchange เพิ่มเติม www.sia-moneyexchange.com

           นอกจากนี้สำหรับสายเที่ยวต่างประเทศก็ยังมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยให้การแลกเปลี่ยนเงินตราง่ายขึ้นด้วย นั่นก็คือ “Travel Card” เช่น

    • Krungthai Travel Card – ธนาคารกรุงไทย

    • Krungsri Boarding Card – ธนาคารกรุงศรี

    • PLANET SCB Card – ธนาคารไทยพาณิชย์

    • บัตร YouTrip – ธนาคารกสิกรไทย

    • TTB All Free – ธนาคารทหารไทยธนชาต

 

 

Reference:

  • ลงทุนแมน.  (2560).  สรุปเรื่อง อัตราแลกเปลี่ยน แบบเข้าใจง่ายๆ.  สืบค้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566, จาก https://shorturl.at/auPT8
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย.  (2566).  มาทำความรู้จักกับคำว่า “อัตราแลกเปลี่ยน”กัน.  สืบค้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566, จาก https://shorturl.at/gxD05
  • หญิงเถื่อน.  (2566).  ส่อง 6 บัตร Travel Card 2022 – 2023 ใช้ต่างประเทศใบไหนคุ้มสุด.  สืบค้นเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2566, จาก https://shorturl.at/bTY27
  • mushroomtravel.  (2566).  อัปเดต 10 ร้าน แลกเงินต่างประเทศ ให้เรทดีที่สุดในไทย.  สืบค้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566, จาก https://shorturl.at/cs359

ไหนดี
Logo