รู้จักธุรกิจแบบ “Subscription” เทรนด์ธุรกิจมาแรงในยุคปัจจุบัน

         ปัจจุบัน โลกของเราเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว หากเราสังเกตจะเห็นว่าในแวดวงของการทำธุรกิจหรือการค้า ต่างมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำธุรกิจ รูปแบบการค้าขายอย่างรวดเร็ว ในยุคนี้หมดยุคของคำพูดที่ว่า “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” แต่เป็น “ปลาที่ว่ายน้ำเร็วกินปลาที่ว่ายน้ำช้า” ต่างหาก ทำให้ธุรกิจที่ต้องดิ้นรนปรับตัว เพื่อหาทางตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค ได้สร้างรูปแบบการทำธุรกิจใหม่ ๆ ขึ้นมาหลากหลายรูปแบบ โดยหนึ่งในการทำธุรกิจแนวใหม่ที่อาจจะมีรากฐานมาจากแนวทางการทำธุรกิจแบบเดิม แต่กลับกลายเป็นที่นิยมในปัจจุบันรูปแบบหนึ่งก็คือการทำธุรกิจแบบ Subscription ซึ่งวันนี้ไหนดี จะมาชวนคุยว่าการทำธุรกิจแบบ Subscription คืออะไร ทำไมถึงเติบโตและสามารถตอบรับความต้องการของตลาดได้ดี เราไปรู้จักกับ “ธุรกิจแบบ Subscription” กันได้เลย

การทำธุรกิจแบบ Subscription คืออะไร ?

          “ธุรกิจแบบ Subscription” คือ การทำธุรกิจในรูปแบบของการให้ลูกค้าสมัครสมาชิกและชำระค่าสมาชิก เพื่อแลกกับสินค้าและบริการของบริษัท ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกชำระเป็นรายเดือนหรือรายปี ตามเงื่อนไขระหว่างบริษัทกับทางลูกค้าอีกทีหนึ่ง ซึ่งแต่เดิม ธุรกิจนี้มักอยู่ในรูปแบบของการสมัครสมาชิก เพื่อเข้ารับบริการต่าง ๆ เช่น การเป็นสมาชิกฟิตเนส เป็นต้น แต่ในปัจจุบันได้พัฒนามาเป็นการเข้าเป็นสมาชิก เพื่อเข้ารับบริการด้านออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Netflix, YouTube เป็นต้น

ทำไมธุรกิจแบบ Subscription จึงเป็นที่นิยม ?

          การที่ “ธุรกิจแบบ Subscription” เติบโตขึ้นเป็นอย่างมากในปัจจุบัน มีผลมาจากปัจจัย ดังต่อไปนี้

• ลูกค้าไม่ต้องเสียเงินซื้อสินค้าและบริการทั้งหมดในครั้งเดียว แต่ทยอยจ่ายค่าสมาชิกเป็นรายเดือนหรือรายปี ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้ด้วยงบประมาณที่น้อยลง
• ลูกค้าได้ประสบการณ์ต่าง ๆ ในระหว่างเป็นสมาชิก จากผู้ประกอบการทำให้เกิดความจงรักภักดีต่อแบรนด์ ส่งผลให้เกิดการซื้อสินค้าและบริการของแบรนด์ไปตลอด เช่น การที่ Netflix ให้สิทธิลูกค้าใช้ฟรี 1 เดือน เมื่อสมัครครั้งแรก เป็นต้น
• ผู้ประกอบการกับลูกค้า สามารถติดต่อกันโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง เช่น ตัวแทนจำหน่ายต่าง ๆ ทำให้ลดต้นทุนของเจ้าของสินค้า และลูกค้าก็ไม่โดนบวกราคาเพิ่มจนมากเกินไป
• สำหรับผู้ประกอบการ การสามารถนำข้อมูลของลูกค้าไปวิเคราะห์ เพื่อเสนอต่อยอดสินค้าและบริการอย่างอื่นได้อีก เพราะการที่ลูกค้าเข้ามาเป็นสมาชิก ทำให้เห็นพฤติกรรมความชอบของลูกค้า ว่าชอบอะไร แนวไหน ทำให้เลือกใช้เครื่องมือทางการตลาด และโปรโมชันได้อย่างเหมาะสม เช่น การสมัครสมาชิกอ่านการ์ตูนออนไลน์ ทำให้ผู้ประกอบการเห็นว่าลูกค้ารายนี้อาจชอบอ่านการ์ตูนแนว Action ก็จะเสนอขายการ์ตูนแนวนี้ให้กับลูกค้าในเรื่องต่อไป เป็นต้น

ตัวอย่างธุรกิจแบบ Subscription ที่ประสบความสำเร็จมีอะไรบ้าง  ?

• Youtube แพลตฟอร์มดูวีดีโอชื่อดัง ซึ่งเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของธุรกิจ Subscription ที่ประสบความสำเร็จ โดย Youtube มีรายได้จากค่าสมัครสมาชิกของลูกค้าที่เข้ามาดูวีดีโอโดยไม่มีโฆษณา และจากค่าโฆษณาจากสปอนเซอร์
• Netflix บริษัทอุตสาหกรรมหนังและความบันเทิง ที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดจากโรงหนังไปมากมาย โดยเปิดให้ลูกค้าสมัครสมาชิกเข้ามาดูหนังและซีรีย์ใหม่ ๆ ได้ตลอด
• Sportify ที่ทำธุรกิจให้บริการฟังเพลงออนไลน์ สตรีมเพลงดิจิทัล พอดแคสต์ และวิดีโอแบบไม่มีโฆษณาคั่น โดยให้ลูกค้าเสียค่าสมาชิกแบบรายเดือน
• Adobe Inc. บริษัทซอฟแวร์ชื่อดัง ที่ได้เปิดให้เช่าบริการซอฟแวร์ต่าง ๆ โดยเก็บค่าสมาชิกเป็นรายเดือน หรือรายปี เช่น Adobe Photoshop, Adobe Acrobat, เป็นต้น