ใกล้สิ้นปีแล้ว สำหรับใครที่กำลังมีผ่อนบ้านกันอยู่ โดยอาจผ่อนชำระไปจนใกล้ 36 งวด หรือใกล้ครบ 3 ปีแล้ว แน่นอนว่าพอชำระมาถึงตรงนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “การหาธนาคารเพื่อทำการรีไฟแนนซ์บ้าน” ทั้งนี้ก็เพื่อลดภาระค่าดอกเบี้ย ค่างวดรายเดือน เพราะการผ่อนชำระบ้านกับธนาคารต่าง ๆ เมื่อครบ 3 ปีแล้ว ธนาคารที่เราผ่อนอยู่จะมีการปรับดอกเบี้ยแบบลอยตัวขึ้น
ดังนั้น การย้ายไปผ่อนธนาคารเจ้าใหม่ เพื่อที่จะได้รับสิทธิดอกเบี้ยพิเศษเหมือนตอนเรากู้บ้านครั้งแรก ย่อมคุ้มค่ากว่า และวันนี้ ไหนดี ขอแนะนำ “การรีไฟแนนซ์บ้าน” ดีอย่างไร พร้อมขั้นตอนง่าย ๆ ทำได้ไม่ยาก ไปดูรายละเอียดกันได้เลย
ทำไมเราถึงต้องรีไฟแนนซ์บ้าน ทุก ๆ 3 ปี ?
- อัตราดอกเบี้ยในการผ่อนบ้านของเราสูงขึ้น เนื่องจากการกู้บ้านกับธนาคารต่าง ๆ จะมีโปรโมชันดอกเบี้ยพิเศษแค่ 3 ปีแรกเท่านั้น โดยหลังจากปีที่ 4 ธนาคารส่วนใหญ่จะคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้า (Minimum Retail Rate : MRR) ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 4% ต่อปีขึ้นไป ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยในการผ่อนบ้านของเราสูงขึ้นนั่นเอง
- ย้ายไปผ่อนบ้านกับธนาคารอื่นได้ โดยไม่เสียค่าปรับ เนื่องจากตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่กำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ ได้มีการกำหนดเกณฑ์การอนุญาตในการรีไฟแนนซ์บ้านย้ายธนาคาร โดยหากลูกค้าผ่อนชำระค่างวดครบ 3 ปี ธนาคารจะไม่สามารถคิดค่าปรับในการที่ลูกค้าย้ายไปผ่อนบ้านกับธนาคารอื่นได้
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้าน
สำหรับใครที่อาจจะยังไม่ทราบว่าการรีไฟแนนซ์บ้านดีอย่างไร ไหนดี จึงสรุปข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้าน ได้ดังนี้
-
ช่วยลดภาระการผ่อน
ทั้งจากอัตราดอกเบี้ย, ค่างวดต่อเดือน ฯลฯ โดยขอยกตัวอย่าง สมมติว่าเรากำลังผ่อนบ้านอยู่กับ ธนาคาร ก.อยู่ มียอดสินเชื่ออยู่ 2,000,000 บาท โดยมีค่างวดผ่อนเดือนละ 20,000 เมื่อเราผ่อนไปจนครบสามปี และไปติดต่อรีไฟแนนซ์บ้านกับ ธนาคาร ข. โดย ธนาคารข. จะคิดยอดจัดสินเชื่อใหม่ให้กับเรา โดยคิดจากยอดหนี้บ้านที่คงเหลือที่เราได้ผ่อนไปกับ ธนาคาร ก. อาจจะเหลือยอด 1,000,000 บาท ทำให้ค่างวดของเราลดลง รวมทั้ง ธนาคาร ข.ก็อาจเสนอดอกเบี้ยใหม่ที่ถูกกว่า ธนาคาร ก. อีกได้ ทำให้ทั้งดอกเบี้ยและค่างวดลดลง นั่นเอง
-
ได้เงินสดไปใช้จ่ายหรือชำระหนี้สิน
การรีไฟแนนซ์บ้านนั้น เมื่อเราได้ผ่อนชำระกับธนาคารแรกไปจนครบ 3 ปี มูลค่าหนี้คงเหลือของเราจะลดลง เมื่อเทียบกับราคาประเมินบ้านของเรา ทำให้เราสามารถกู้เงินสดตามจำนวนยอดเงินส่วนต่าง เพื่อไปใช้จ่ายหรือชำระหนี้สินได้ เพราะดอกเบี้ยบ้านถือว่าถูกมากกว่าการไปขอสินเชื่อส่วนบุคคลหรือสินเชื่ออื่น ๆ โดย ไหนดี ขอยกตัวอย่าง เช่น บ้านของเรามีราคาประเมินที่ 2,000,000 บาท เมื่อเราผ่อนชำระไป 3 ปีเหลือยอด 1,000,000 ทำให้มีส่วนต่างระหว่างราคาประเมิน กับยอดหนี้คงค้าง 1,000,000 บาทที่เราสามารถไปขอกู้กับธนาคารใหม่ได้
อยากรีไฟแนนซ์บ้านต้องทำอย่างไรบ้าง ?
สำหรับผู้ที่อยากรีไฟแนนซ์บ้านมีขั้นตอนง่าย ๆ ที่ ไหนดี ขอแนะนำ ดังนี้
- ทำการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยบ้านของธนาคารต่าง ๆ พร้อมเงื่อนไข โปรโมชัน
- เตรียมเอกสารสำหรับการยื่นกู้ โดยเตรียมเอกสารเหมือนกันกับตอนเรากู้บ้านใหม่เลย แต่เพิ่มเติมคือ สัญญากู้บ้านกับธนาคารเดิม และใบเสร็จค่างวดผ่อนบ้านงวดล่าสุดของเรา
- เช็คยอดปิดบัญชีบ้านของธนาคารที่เราผ่อนอยู่ เพื่อประมาณการยอดขอกู้กับธนาคารใหม่
- ทำการสมัครขอกู้บ้านกับธนาคารใหม่ พร้อมนัดหมายเจ้าหน้าที่ธนาคารเข้ามาประเมินราคาบ้านของเรา
- รอผลการสมัคร หากอนุมัติให้เราติดต่อธนาคารเดิม และธนาคารใหม่ เพื่อทำเรื่องปิด และจดจำนองใหม่
- หากใครขอกู้เงินสดเพิ่ม ทางธนาคารใหม่จะโอนเงินเข้าบัญชี หรือจ่ายเป็นเช็กเงินสดในวันที่ไปจดจำนอง ณ ที่ทำการที่ดิน