เปิดเงื่อนไขและสิทธิพิเศษของ “กองทุนการออมเงินแห่งชาติ” เพื่อการเกษียณ

กองทุนการออมเงินแห่งชาติ หรือ กอช. เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนชาวไทยมีการออมเงินเพื่อการเกษียณอายุ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงทางการเงินเมื่อเกษียณอายุ ในบทความนี้ ไหนดี จะพาไปดูกันว่าใครบ้างที่สามารถสมัครได้ พร้อมกับเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของโครงการนี้ว่ามีอะไรบ้าง

เงื่อนไขและสิทธิพิเศษของ “กองทุนการออมเงินแห่งชาติ” เพื่อการเกษียณ

ใครบ้างที่สามารถสมัครโครงการ กอช. ได้

บุคคลที่สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ กอช. ได้จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  1. สัญชาติไทย: ต้องเป็นประชาชนไทยที่มีบัตรประจำตัวประชาชน และมีสัญชาติไทย
  2. อายุ: อยู่ในช่วงอายุ 15-59 ปี
  3. ทำอาชีพอิสระ: เช่น พ่อค้า แม่ค้า เกษตรกร คนขับแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซต์ ฟรีแลนซ์ นักเรียน นักศึกษา เป็นต้น
  4. ไม่มีประกันสังคม: ไม่เป็นผู้อยู่ในระบบประกันสังคม ยกเว้นผู้ประกันตน ม.40 ทางเลือก 1 (จ่ายเดือนละ 70 บาท)
  5. ไม่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ: บุคคลที่เป็นสมาชิกของกองทุนเหล่านี้จะไม่สามารถสมัครเข้าร่วม กอช. ได้
  6. ไม่เป็นพนักงานราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ: บุคคลที่มีการจัดเตรียมเงินบำเหน็จบำนาญจากหน่วยงานดังกล่าวจะไม่สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้

หลักเกณฑ์ในการออมเงินกับโครงการ กอช.

กอช. มีหลักเกณฑ์ในการออมเงินที่เป็นระบบเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถได้รับประโยชน์สูงสุด ดังนี้

  1. การออมเงินตามอายุ: ผู้สมัครสามารถเลือกออมเงินตามความต้องการ แต่ไม่เกินจำนวนที่กำหนดในแต่ละปี โดยออมขั้นต่ำเดือนละ 50 บาท แต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
    • อายุ 15-30 ปี: ต้องออมไม่น้อยกว่า 3,600 บาทต่อปี ถึงจะได้เงินสมทบสูงสุด
    • อายุ 31-50 ปี: ต้องออมไม่น้อยกว่า 2,250 บาทต่อปี ถึงจะได้เงินสมทบสูงสุด
    • อายุ 51-59 ปี: ต้องออมไม่น้อยกว่า 1,800 บาทต่อปี ถึงจะได้เงินสมทบสูงสุด
  2. อัตราการได้รับเงินสมทบ: กอช. จะให้เงินสมทบตามช่วงอายุของผู้สมัคร โดยมีรายละเอียดดังนี้:
    • อายุ 15-30 ปี: รัฐสมทบ 50% ของจำนวนเงินออม แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี
    • อายุ 31-50 ปี: รัฐสมทบ 80% ของจำนวนเงินออม แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี
    • อายุ 51-59 ปี: รัฐสมทบ 100% ของจำนวนเงินออม แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี

ตัวอย่างการออมเงินกับโครงการ กอช.

  • นายไก่ อายุ 35 ปี อาชีพค้าขาย ส่งออมเดือนละ 1,000 บาท
  • รัฐสมทบให้ 80% ในเดือนถัดไป เป็นเงิน 800 บาท
  • นายไก่ออมต่อเนื่องครบ 1 ปี รวมเป็นจำนวนเงิน 12,000 บาท จะได้เงินสมทบสูงสุด 1,800 บาท
  • หากออมต่อเนื่องทุกปีจนครบอายุ 60 ปี บวกอัตราผลตอบแทนประมาณ 5% ต่อปี
  • นายไก่จะมีเงินสะสมทั้งหมด 617,607 บาท จะได้รับบำนาญเดือนละ 2,833 บาท

หรือเข้าไปกดคำนวณง่าย ๆ ที่หน้าเว็บไซต์ https://eservice.nsf.or.th/pension/calculation

สิทธิประโยชน์หลังจากสมัครโครงการ กอช.

หลังจากที่สมัครเข้าร่วมโครงการ กอช. ผู้สมัครจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ดังนี้

  1. เงินสมทบจากรัฐ: ผู้สมัครจะได้รับเงินสมทบตามอัตราที่กำหนดตามช่วงอายุ
  2. เงินสะสมและดอกเบี้ย: เงินออมที่สะสมพร้อมกับดอกเบี้ยจะถูกเก็บรักษาในบัญชีของผู้สมัคร และสามารถรับเงินสะสมทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยเมื่อเกษียณอายุ
  3. สิทธิประโยชน์ทางภาษี: ผู้สมัครสามารถนำเงินออมเข้ากองทุน กอช. มาหักลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวน สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
  4. รับเงินบำนาญตลอดชีพ: ผู้สมัครจะได้รับเงินบำนาญหลังเกษียณอายุ 60 ปี สูงสุดไม่เกิน 12,000 บาทต่อเดือน ตลอดชีพ แต่หากผู้สมัครเสียชีวิตก่อนอายุครบ 60 ปี ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินสะสมทั้งหมดแทน

ข้อดีของการสมัครโครงการ กอช.

การสมัครเข้าร่วมโครงการ กอช. มีข้อดีหลายประการที่ทำให้ผู้สมัครมีความมั่นคงทางการเงินเมื่อเกษียณอายุ:

  1. มีเงินใช้หลังเกษียณตลอดชีพ: การออมเงินใน กอช. จะช่วยให้ผู้สมัครมีเงินใช้เมื่อเกษียณอายุ ทำให้ไม่ต้องพึ่งพิงการช่วยเหลือจากผู้อื่น
  2. ได้รับเงินสมทบจากรัฐ: การได้รับเงินสมทบจากรัฐเป็นการเพิ่มมูลค่าเงินออมของผู้สมัคร
  3. ความมั่นคงทางการเงิน: การมีเงินสะสมและดอกเบี้ยจะช่วยให้ผู้สมัครมีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
  4. ส่งเสริมการออมเงิน: การออมเงินใน กอช. ช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมีการวางแผนทางการเงินที่ดีและมีวินัยในการออมเงิน

ไหนดี เห็นว่าการสมัครกองทุนการออมเงินแห่งชาติ (กอช.) จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับประชาชนที่ต้องการมีความมั่นคงทางการเงินในวัยเกษียณ ด้วยเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้สมัคร ทำให้โครงการนี้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าในการลงทุนในอนาคต

ไหนดี
Logo