ใบขับขี่ที่สำคัญในการใช้ประกอบการขับรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ (จักรยานยนต์) มีขั้นตอนในการทำและต่อใบขับขี่อย่างไรบ้าง ในการทำใบขับขี่ใหม่ มีอะไรควรรู้จากแนวข้อสอบใบขับขี่จักรยานยนต์ และข้อสอบใบขับขี่รถยนต์ 2563 อะไรที่ควรรู้บ้าง มาดูกัน อัพเดทปี 2564
สอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์/รถยนต์ (ทำใหม่)
ขั้นตอนขอทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์/รถยนต์
- เพื่อความรวดเร็วสามารถจองคิวเข้ารับบริการผ่าน gecc.dlt.go.th หรือแอพ DLT Smart Queue พร้อมเตรียมเอกสาร (ดูเอกสารในหัวข้อถัดไป)
- ทดสอบร่างกาย โดยมีการทดสอบการมองเห็นสี, ทดสอบสายตาทางลึก, ทดสอบความสามารถในการใช้เบรกเท้า, ทดสอบสายตาทางกว้าง
- เข้ารับการอบรมตามคิวที่จองไว้ (5 ชั่วโมง)
- สอบข้อเขียนผ่านระบบ E-exam จำนวน 50 ข้อ โดยต้องผ่านมากกว่า 45 ข้อ ถ้าสอบไม่ผ่านสามารถสอบใหม่ได้ในวัดถัดไป
- สอบปฏิบัติในวันถัดไป โดยสำหรับมอเตอร์ไซต์มี 5 ท่าได้แก่
- ท่าที่ 1 การขับรถโดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร
- ท่าที่ 2 การขับรถทรงตัวบนทางแคบ
- ท่าที่ 3 การขับรถผ่านทางโค้งรัศมีแคบ (รูปตัว Z)
- ท่าที่ 4 การขับรถผ่านทางโค้งซ้ายและโค้งขวา (รูปตัว S)
- ท่าที่ 5 การขับรถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง
- จ่ายเงิน ถ่ายรูป รับบัตร
เอกสารขอทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ (ทำใหม่)
เอกสารที่ต้องใช้ในการทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซต์) มีดังนี้
- บัตรประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนา
- ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน (มีที่อยู่และตราประทับชัดเจน)
- ถ้าอบรมมาแล้วนอกขนส่ง ให้นำใบรับรองการอบรมมาด้วย
- ค่าธรรมเนียมใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ 205 บาท (ค่าธรรมเนียมขอมีบัตร 5 บาท+ค่าทำใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 100 บาท+บัตรสมาร์ตการ์ด 100 บาท)
ต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์/รถยนต์
เอกสารต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์/รถยนต์
เอกสารที่ต้องใช้ในการทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซต์) ทั้ง ต่อใบขับขี่ 2 ปีเป็น 5 ปีหรือ ต่อใบขับขี่ 5ปีเป็น 5ปีใช้อะไรบ้างมีดังนี้
- บัตรประชาชนผู้ขับขี่
- ใบขับขี่ใบเดิม
- ใบรับรองแพทย์ไม่เกิน 1 เดือน (สำหรับผู้ที่ต่ออายุแบบ 2 ปี เป็น 5 ปี เท่านั้น)
- ค่าธรรมเนียมใบขับขี่ (รถมอเตอร์ไซค์)
- แบบ 2 ปี เตรียมเงินค่าธรรมเนียม 105 บาท
- แบบ 5 ปี เตรียมเงินค่าธรรมเนียม 255 บาท
- ถ้ามีการเปลี่ยนชื่อให้แนบใบเปลี่ยนชื่อมาด้วย
ขั้นตอนต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์/รถยนต์
- เดินทางไปที่สำนักงานขนส่งแถวบ้านที่สะดวกเลย เพื่อรับบัตรคิว (ควรไปช่วงเช้า) หรือจะจองคิวผ่านแอพ DLT Smart Queue ก่อนก็ได้
- รอทดสอบร่างกาย โดยมีการทดสอบการมองเห็นสี, ทดสอบสายตาทางลึก, ทดสอบความสามารถในการใช้เบรกเท้า, ทดสอบสายตาทางกว้าง
- เข้าอบรมประมาณ 1 ชั่วโมง
- นำเอกสารผ่านการทดสอบร่างกายและอบรมไปติดต่อที่ช่องทำใบขับขี่ เพื่อรอชำระเงิน (ชำระก่อน 15.30น.) ถ่ายรูป และรับบัตร
ถ้าต่ออายุโดยใบขับขี่หมดอายุเกิน 1-3 ปี ต้องสอบข้อเขียนและอบรม 5 ชั่วโมงใหม่, ถ้าหมดอายุเกิน 3 ปีต้องสอบข้อเขียน อบรม 5 ชั่วโมง และสอบขับรถใหม่พร้อมนำใบรับรองแพทย์มาด้วยเหมือนสอบใหม่เลย
ข้อสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ รถยนต์
สรุปข้อสอบใบขับขี่ 2563 ที่ทางทีมงานสรุปมาจากแนวข้อสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์, ข้อสอบใบขับขี่รถยนต์ เริ่มต้นด้วยสรุปป้ายจราจรโดยแนะนำให้จำให้ได้ทั้งหมดเลย เพราะในข้อสอบจะมีการสุ่มมาออกจากข้อสอบแต่ละชุดครับ
ป้ายจราจร
ข้อสอบใบขับขี่ในกลุ่มที่ง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้กับป้ายจราจร ที่ค่อนข้างง่ายเช่นป้ายห้ามแซง ห้ามเข้า ห้ามกลับรถขวา ห้ามกลับรถซ้าย รวมถึงป้ายห้ามเลี้ยวขวา ห้ามเลี้ยวไปทางซ้าย ห้ามเปลี่ยนช่องการเดินรถไปทางด้านขวา และป้ายห้ามเลี้ยวขวาหรือกลับรถ ซึ่งตัวข้อสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือข้อสอบใบขับขี่รถยนต์มักจะถามว่าป้ายเหล่านี้หมายความว่าอะไร
ตามมาด้วยกลุ่มถัดมาของข้อสอบใบขับขี่เรื่องป้ายจราจร: ป้ายห้ามเลี้ยวซ้ายหรือกลับรถ ป้ายห้ามรถยนต์, รถบรรทุก, รถจักรยายนต์ทุกชนิดผ่านเข้าไป, ป้ายห้ามใช้เสียง,ป้ายห้ามจอด ห้ามหยุดหรือจอด และป้ายเฉพาะคนเดิน
ชุดที่ 3 ของป้ายจราจรกับข้อสอบใบขับขี่ ประกอบไปด้วยป้ายจราจรห้ามสูงเกินกำหนด, ป้ายห้ามใช้ความเร็ว “กิโลเมตรต่อชั่วโมง” เกินที่กำหนด, ป้ายข้ามรถบรรทุกที่น้ำหนักเกินกว่า “ตัน” ที่กำหนดเข้าออก, ป้ายช่องเดินรถจักรยานยนต์, ป้ายสุดเขตบังคับ, ป้ายต้องหยุดตรงตำแหน่งที่ติดตั้งป้ายและให้รถที่กำลังสวนทางมานั้นผ่านไปก่อน, ป้ายตรงไปทิศเดียวเท่านั้น และป้ายจราจรที่ใช้ชิดซ้าย ชิดขวา หรือให้ชิดซ้ายหรือชิดขวา ซึ่งข้อสอบใบขับขี่ก็จะถามความหมายของป้ายเหล่านี้
ป้ายจราจรที่ในแนวข้อสอบใบขับขี่ที่เราสรุปมาให้กลุ่มที่ 4 จะยังคงอยู่กับป้ายพื้นหลังดำกับป้ายให้ตรงไปหรือเลี้ยวซ้าย, ป้ายวงเวียนที่ให้รถขับวนซ้าย, ป้ายห้ามแซงล้ำเข้าไปในทางของรถเมล์, ป้ายให้รถที่มีคนนั่งมากกว่า 3 คนถึงวิ่งได้
และป้ายสีเหลืองว่าทางข้างหน้าเป็นทางโค้งไปทางขวา, ป้ายให้ขับช้าลงเพราะข้างหน้าเป็นทางคดเคี้ยว, ป้ายให้ขับช้าลง, ป้ายให้ขับช้าลงข้างหน้าเป็นทางโค้งรัศมีแคบไปทางซ้าย
ป้ายจราจรที่ต้องรู้สำหรับข้อสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์ กลุ่มที่ 5 ป้ายพื้นหลังสีเหลือง มีป้ายขับให้ช้าลงและเพิ่มความระมัดระวัง เพราะทางข้างหน้ามีทางโทแยกไปทางซ้าย, ป้ายทางโทแยกทางเอกเยื้องกัน เริ่มซ้าย, ป้ายทางโทเชื่อมทางเอกจากซ้าย, ป้ายทางเอกแยกทางเอกจากซ้าย รูปตัววาย
ป้ายทางข้างหน้าจะแคบลงกว่าทางที่กำลังขับผ่านทั้งสองด้าน, ป้ายทางแคบข้างหน้า, ป้ายระวังอันตรายจากรถที่สวนมาจากอีกฝั่งหนึ่งของสะพาน และป้ายช่องจราจรปิดด้านซ้าย
ป้ายทั้งหมดนี้แนะนำให้จำให้ได้เพราะเราสรุปมาจากแนวข้อสอบใบขับขี่ครับ
กฎหมายรถยนต์
ในขณะขับรถต้องมีเอกสารสำเนาภาพถ่ายใบคู่มือจดทะเบียนรถคู่กับใบอนุญาตขับรถ ส่วนถ้าขับรถแล้วทำผิดกฎและโดนใบสั่งต้องชำระค่าปรับภายใน 7 วัน
เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับใบขับขี่คือ ใบขับขี่ชั่วคราวมีอายุ 2 ปี เมื่อทำเป็นแบบ 5 ปีแล้วสามารถต่ออายุใบขับขี่รถส่วนบุคคลล่วงหน้าได้ 3 เดือน ถ้าใบขับขี่หายต้องยื่นขอรับใบแทนภายใน 15 วัน โดยถ้าขับรถโดยไม่มีใบขับขี่มีความผิดจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนถ้าขับรถโดยที่ใบขับขี่หมดอายุไปแล้วมีความผิดคือ ปรับไม่เกินสองพันบาท
ประเด็นเกี่ยวกับการชำระภาษีประจำปีคือ ถ้าใช้รถยนต์อายุเกิน 7 ปีแล้วต้องนำไปตรวจสภาพรถก่อน ส่วนรถจักรยานยนต์ถ้าใช้เกิน 5 ปีแล้วต้องนำไปตรวจสภาพรถก่อน ในขณะที่ถ้าไม่จ่ายภาษีประจำปีมีโทษปรับร้อยละ 1 ต่อเดือน
ส่วนถ้ามีการโอนรถต้องแจ้งให้นายทะเบียนทราบภายในไม่เกิน 15 วัน เช่นเดียวกับการย้ายรถก็ต้องแจ้งนายทะเบียนภายใน 15 วัน ถ้าเปลี่ยนสีก็ต้องแจ้งภายใน 7 วัน
กฎหมายจราจรทางบก
ถ้าขับรถผ่านทางร่วมทางแยกต้องปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรหรือกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ถ้าเจอไฟกระพิบเหลืองลดความเร็วของรถลงและผ่านทางเดินรถนั้นไปด้วยความระมัดระวัง ถ้าเจอไฟกระพิบแดงหยุดรถหลังเส้นให้รถหยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรจึงให้ขับรถต่อไปด้วยความระมัดระวัง และเมื่อหยุดรถต้องหยุดหลังเส้นแนวหยุด
ขับรถให้ห่างจากคันหน้าในระยะที่จะสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัยเมื่อมีความจำเป็น ถ้าจะเลี้ยวซ้ายต้องอยู่เลนซ้ายไม่น้อยกว่า 30 เมตร และชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร โดยไฟเลี้ยวต้องให้คันอื่นเห็นได้ในระยะ 60 เมตร หากเป็นการให้สัญญาณมือเพื่อเลี้ยวรถให้สัญญาณมือด้วยมือขวาเท่านั้น กลับรถได้เมื่อระยะ 150 เมตร จากทางราบของเชิงสะพาน
ไฟหน้าไฟท้ายต้องมองเห็นในรถยะ 150 เมตร เจอรถสวนให้ขับรถชิดด้านซ้าย ส่วนการใช้ไฟฉุกเฉินให้ถูกต้องคือรถเสียหรือรถเกิดอุบัติเหตุ
รถที่นำมาใช้ในทางนั้นจะต้องเป็นรถที่จดทะเบียนและเสียภาษีแล้ว เท่านั้นและรถที่มีเสียงเครื่องยนต์ดังในระดับ 80 เดซิเบลสามารถใช้ในทางได้ ส่วนรถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง จะห้ามนำมาใช้ในทาง
การขับรถ รถช้าจะต้องขับรถชิดขอบด้านซ้ายในเรื่องการแซงจะห้ามแซงในบริเวณที่ทางโค้งรัศมีแคบ ซึ่งการแซงจะแซงได้เฉพาะแซงขวา ยกเว้นกรณีเดียวที่จะแซงซ้ายได้คือเมื่อรถที่จะถูกแซงกำลังเลี้ยวขวา หรือให้สัญญาณว่าจะเลี้ยวขวา
การจอดรถต้องจอดห่างจากขอบทางไม่เกิน 25 เซนติเมตร
ตามกฎหมายได้นิยามเขตปลอดภัยว่าพื้นที่ในทางเดินรถที่มีเครื่องหมายแสดงไว้ให้เห็นได้ชัดเจนทุกเวลาสำหรับ ให้คนเดินเท้าที่ข้ามทางหยุดรอ หรือให้คนที่ขึ้นหรือลงจากรถหยุดรอก่อนจะข้ามทางต่อไป
เรื่องสัญญาณจราจรนั้น ไฟสีแดงที่ทำเป็นรูปกากบาทเฉียงอยู่เหนือช่องเดินรถ ห้ามไม่ให้ขับรถในช่องเดินรถนั้น
ภิกษุ สามเณร จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องใส่หมวกกันน็อกในการนั่งรถจักรยานยนต์
หมวดมารยาทและจิตสำนึก
แนวข้อสอบใบขับขี่กลุ่มมารยาทและจิตสำนึก
- เมื่อเข้าวงเวียนและวงเวียนไม่มีไฟเขียวไฟแดงต้อง ให้รถทางซ้ายมือของเราที่อยู่ในวงเวียนไปก่อน
- เมื่อขับรถผ่านซอยที่มีรถออกมาจำนวนมาก เปิดทางให้รถออกจากซอยได้บ้างสลับกับรถทางตรง
- เมื่อต้องการเลี้ยวซ้ายหรือขวา ต้องให้สัญญาณไฟทุกครั้ง
- เมื่อขับอยู่ในช่องขวาสุดแล้วคันหลังขับมาด้วยความเร็วสูง ให้เปิดไฟเลี้ยวซ้ายแล้วเปลี่ยนไปเลนส์ซ้าย เพื่อให้คันหลังแซงไปอย่างปลอดภัย
- ไฟสูง ใช้สำหรับตรวจสอบสภาพถนนและริมถนนในเส้นทางที่มืดและไม่มีรถสวน
- ถ้าเข้าเขตชุมชน ควรขับช้าๆ และใช้แตรเมื่อจำเป็นในการเตือนให้ระวังเท่านั้น
- สัญญาณไฟฉุกเฉิน ควรใช้เมื่อ รถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ
หมวดบำรุงรักษา
แนวข้อสอบใบขับขี่กลุ่มบำรุงรักษา เกี่ยข้องกับแบตเตอรี่รถยนต์ ดังนี้
- รถสตาร์ทไม่ติดเกิดจาก แบตเตอรี่รถยนต์ไม่มีไฟ
- ฉนวนหุ้มขั้วแบตเตอรี่ ควรมีที่ ขั้วบวก
- เมื่อจะถอดแบตเตอรี่รถยนต์ควร ถอดจากขั้วลบก่อน
- คราบขี้เกลือที่แบตรถยนต์มาจาก น้ำกรดทำปฏิกิริยากับอากาศ
- ขนาดแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่รถยนต์อยู่ที่ 12 โวลท์
อัพเดท 4 กุมภาพันธ์ 2563!! กรมการขนส่งทางบกกำลังปรับปรุงข้อสอบใบขับขี่ใหม่ ให้เป็นแบบเน้นความเข้าใจมากขึ้น จากที่แต่เดิมนั้นจะเป็นลักษณะของความจำสะส่วนใหญ่ โดยยังคงใช้หลักเกณฑ์เดิมคือต้องตอบถูก 45 ข้อจาก 50 ข้อถึงจะผ่านบททดสอบ
โดยกรมการขนส่งทางบกแจ้งว่าการปรับข้อสอบใหม่นี้เพื่อประเมินผู้ขับขี่ถึงการรับรู้เรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ และความสามารถในการวิเคราะห์การแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินบนท้องถนน
ซึ่งข้อสอบชุดใหม่นี้จะยังคงสุ่มคำถามมา 50 คำถามจากคลังคำถาม 1,000 คำถาม และจะเริ่มทยอยนำคำถามแบบใหม่เข้าไปในระบบตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 และคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2563
การปรับปรุงข้อสอบใบขับขี่ครั้งใหญ่ ปี 2563 นี้ก็เพื่อยกระดับคุณภาพผู้ขอใบขับขี่ให้มีความรู้ความเข้าใจถูกต้องกับการใช้ถนนอย่างปลอดภัย