Berkshire Hathaway บริษัทการลงทุนที่นำโดย “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ได้ขายหุ้นของบริษัท Apple ประมาณ 13% ในช่วงไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2567 ซึ่ง Apple คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของพอร์ตหุ้นของ Berkshire เป็นสัญญาณว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้เปลี่ยนมุมมองของเขาเกี่ยวกับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาไปแล้ว ในบทความนี้ ไหนดี จะพาไปดูรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกันค่ะ
“วอร์เรน บัฟเฟตต์” ขายหุ้น Apple อีก 13% ในไตรมาสแรก
“Berkshire Hathaway” คือบริษัทอะไร ?
Berkshire Hathaway เป็นบริษัทกองทุนลงทุนและบริษัทหลักทรัพย์ที่มีบทบาทสำคัญในการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ โดยมีวิสัยทัศน์ในการลงทุนในธุรกิจที่มีคุณค่ายาวนานและมีการจัดการทรัพย์สินให้มีประสิทธิภาพ เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีความสำคัญในวงการการเงินและการลงทุนทั่วโลก
“วอร์เรน บัฟเฟตต์” คือใคร ?
“วอร์เรน บัฟเฟตต์” (Warren Buffett) เป็นนักลงทุนชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงในวงการการเงินและการลงทุน โดยเป็นประธานบริษัท Berkshire Hathaway ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทกองทุนลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขามีทักษะในการลงทุนอย่างมืออาชีพและมีผลงานที่ประสบความสำเร็จมากมายในการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ นับเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่มีอิทธิพลมากในวงการการเงินทั่วโลก
การถือหุ้น Apple ของ Berkshire Hathaway
- รายงานผลประกอบการแสดงให้เห็นว่า Berkshire ถือหุ้น Apple มูลค่า 135.4 พันล้านดอลลาร์ ณ สิ้นไตรมาสแรก ลดลง 22% จากสิ้นเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 เนื่องจากราคาหุ้นของ Apple ลดลง 10.9% ในช่วงเวลานั้น นั่นหมายความว่า Berkshire ยกเลิกการถือหุ้นประมาณ 13% ของ Apple
- บริษัทได้ขายหุ้นของ Apple 2 ไตรมาสติดต่อกัน แม้ว่าที่ผ่านมาจะให้คำชมกับ Apple ว่าเป็นธุรกิจที่ดีกว่าธุรกิจอื่น ๆ ในพอร์ตของบริษัทก็ตาม
สถานการณ์ปัจจุบันของ Apple
- การจัดส่งสมาร์ทโฟนใหม่ของ Apple ลดลงประมาณ 10% ในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2567 โดยได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นโดยผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Android ที่มุ่งเป้าไปที่จุดสูงสุด
- ยอดขายที่ลดลงอย่างมากของผู้ผลิต iPhone เกิดขึ้นหลังจากผลประกอบการในไตรมาสเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 โดยแซงหน้า Samsung ขึ้นเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์อันดับ 1 ของโลก กลับมาอยู่อันดับที่ 2 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 17.3% เนื่องจากแบรนด์จีนอย่าง Huawei ได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น
- ในไตรมาสแรก Apple จัดส่ง iPhone ได้ 50.1 ล้านเครื่อง ลดลงจาก 55.4 ล้านเครื่องที่จัดส่งในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว รวมถึงการจัดส่งสมาร์ทโฟนของ Apple ในจีนลดลง 2.1% ในไตรมาสสุดท้ายของปี พ.ศ. 2566 จากปีก่อนหน้า
- นักลงทุนกำลังจับตาดูข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ของ Apple อย่างใกล้ชิด ซึ่งจนถึงขณะนี้แทบไม่ได้พูดถึงการนำเทคโนโลยี AI เข้าไปในอุปกรณ์ของเลย เมื่อต้นปีนี้บริษัทได้สูญเสียมงกุฎในฐานะบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกให้กับ Microsoft ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- แต่อย่างไรก็ตาม ทิม คุก CEO ของ Apple ได้ชี้แจ้งว่าที่ยอดขายลดลงเป็นเพราะขาดซัพพลายทำให้ผลิตสินค้าไม่ทัน
จากการที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ขายหุ้น Apple อย่างต่อเนื่อง บวกกับสถานการณ์ของ Apple ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ทำให้เป็นที่จับตามองของนักลงทุนในไตรมาสต่อ ๆ ไปว่าหุ้น Apple ยังเหมาะสมควรค่าแก่การลงทุนอยู่หรือไม่ สำหรับใครที่ชื่นชอบบทความเกี่ยวกับการเงินและการลงทุน อย่าลืมติดตามบทความใหม่ ๆ ที่น่าสนใจได้ในเว็บไซต์ ไหนดี กันนะคะ
Credit the pic from IronFX, CNBD