รถยนต์น้ำมัน VS รถยนต์ไฟฟ้า แบบไหนประหยัดกว่ากัน
เป็นที่ทราบกันดีว่า จากสถานการณ์สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย ได้ส่งผลประทบต่อวิกฤตทางเศรษฐกิจของโลก ทำให้สินค้าต่าง ๆ ที่มีผลเกี่ยวข้องกับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของโลกตะวันตกต่อรัสเซียปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งในปัจจุบันนั้น รัสเซียถือเป็นชาติผู้ส่งออกสินค้าทางพลังงาน เช่น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของโลก การที่แหล่งน้ำมันจากรัสเซียหายไปทำให้ราคาน้ำมันโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จากความกังวลเรื่องราคาน้ำมันแพงและเทรนด์การรักษ์โลกที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ ทำให้กระแสของรถไฟฟ้าเริ่มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ทางผู้ผลิตรถยนต์ต่าง ๆ เริ่มนำรถไฟฟ้าเข้ามาขายมากขึ้น เมื่อมีความนิยมและการแข่งขันที่สูงขึ้น ทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง ซึ่งแต่เดิมการที่เราจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าซักคันหนึ่งนั้นต้องจ่ายเงินหลายล้านบาท แต่ในปัจจุบันมีเงินหลักแสนก็สามารถซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้แล้ว และปัจจัยหลักสำคัญที่คนส่วนใหญ่จะนำมาพิจารณาในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้านั่นก็คือ การประหยัดค่าน้ำมันต่อเดือน เพราะราคาของการชาร์จไฟฟ้า เมื่อเทียบกับน้ำมันนั้นถูกกว่ากันอย่างมาก แต่เมื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจะทำให้ค่าใช้จ่ายรายเดือนถูกกว่ารถใช้น้ำมันจริงหรือไม่ ในวันนี้ไหนดีจะพาไปหาคำตอบกัน
เจาะค่าใช้จ่ายรถยนต์ไฟฟ้า เทียบรถยนต์ใช้น้ำมัน รถไฟฟ้าถูกกว่าจริงไหม
จริงอยู่ที่ถ้าหากเราคิดเพียงค่าใช้จ่ายด้านพลังงานรถยนต์ไฟฟ้าจะมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ถูกกว่าน้ำมันเป็นอย่างมาก แต่หากเราเทียบค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แล้ว รถยนต์ไฟฟ้าจะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่ารถยนต์ใช้น้ำมันหรือไม่นั้นเราไปหาคำตอบกัน โดยตัวอย่างเปรียบเทียบนี้เราขอยกตัวอย่างรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์น้ำมันที่มีจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งสามารถพิจารณาเปรียบเทียบได้ตามตารางต่อไปนี้ โดยตัวอย่างรถยต์ที่เรานำมาเปรียบเทียบนั้น เป็นรถยนต์รุ่นเดียวกัน และยี่ห้อเดียวกัน ต่างเพียงมีรุ่นให้เลือกเป็นรุ่นขับเคลื่อนด้วยน้ำมัน หรือขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า
รายการเปรียบเทียบ |
รถยนต์น้ำมัน A |
รถไฟฟ้า B |
1. ราคารถ |
799,000 |
1,190,000 |
2. ระยะทางเฉลี่ยที่วิ่งได้ต่อการเติมพลังงาน 1 ครั้ง |
571 KM |
403 KM |
3. ราคาต่อการเติมพลังงานเต็มความจุ |
Gasohol 91 ราคา 1,895 บาท (16/3/22) |
ไฟฟ้า 187 บาท |
4. ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร |
3.31 บาท |
0.46 บาท |
เห็นอย่างนี้แล้วหลายคนคงปรบมือให้กับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นแน่ เพราะค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร และค่าใช้จ่ายในการเติมพลังงานต่อครั้ง ถูกกว่ารถยนต์ใช้น้ำมันเป็นอย่างมาก แต่เดี๋ยวก่อนยังมีต้นทุนบางอย่างที่หลายคนลืมคิดไปซึ่งสิ่งนั้นก็คือ “ส่วนต่างของราคารถยนต์” ด้วยความที่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยยังไม่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ทำให้ในประเทศไทยราคาของรถยนต์ไฟฟ้าค่อนข้างสูง รถยนต์ไฟฟ้าบางยี่ห้อยังไม่มีไลน์ผลิตในประเทศไทย ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ จึงโดนกำแพงภาษีบวกราคาสูงขึ้นไปอีก
โดยจากตัวอย่างรถยนต์ยี่ห้อ A แบบใช้น้ำมันราคาเพียง 799,000 ส่วนรถยนต์รุ่นเดียวกันแต่ใช้ไฟฟ้า มีราคาสูงถึง 1,190,000 ทำให้มีส่วนต่างราคา 391,000 ซึ่งหากใช้รถยนต์น้ำมันเดือนนึงเราวิ่ง 571 กิโลเมตรตามตาราง และเติมน้ำมันเดือนละ 1,895 บาท ส่วนต่างราคาระหว่างรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์น้ำมันดังกล่าว ทำให้เราสามารถเติมน้ำมันได้ถึง 206 เดือน หรือ 17 ปีกันเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าเราอาจจะไม่ได้ใช้รถยนต์คันนึงนานขนาดนั้น เท่ากับว่าส่วนต่างดังกล่าว เราสามารถนำมาเติมน้ำมันได้จนขายรถยนต์ซื้อคันใหม่เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเรื่องของระยะเวลาในการชาร์จไฟที่รถยนต์ไฟฟ้า อาจต้องใช้เวลานานกว่ารถน้ำมัน ซึ่งระยะเวลาเร็วที่สุดอย่างต่ำก็ครึ่งชั่วโมง ในขณะที่รถน้ำมันเพียงไม่เกิน 5 นาทีก็ไปต่อได้แล้ว ซึ่งการสูญเสียเวลาดังกล่าวนี้ หากนำมาคิดเป็นมูลค่า ก็จะมีส่วนต่างราคาที่ต้องเสียไปอีก
สรุปรถยนต์ไฟฟ้า เทียบรถยนต์ใช้น้ำมัน แบบไหนประหยัดกว่ากัน
จากการเปรียบเทียบข้อมูลเบื้องต้น คงพอทำให้ทุกคนเห็นภาพแล้วว่าหากเทียบกันในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร และค่าใช้จ่ายในการเติมพลังงานรถยนต์ต่อครั้ง จะเห็นได้ว่า รถยนต์ไฟฟ้าประหยัดเงินกว่ารถยนต์น้ำมันเป็นอย่างมาก แต่อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า ยังมีต้นทุนอื่น ๆ ที่เราต้องนำมาคำนวณอีก นั่นก็คือ “ค่าส่วนต่างของราคารถยนต์” แต่ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าดีกว่าทุกอย่างทันที ถ้าหากราคารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีราคาเท่า ๆ กับรถยนต์ใช้น้ำมันในรุ่นเดียวกัน
ดังนั้นหากเปรียบเทียบในปัจจุบัน สำหรับประเทศไทยรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้จริง แต่ส่วนต่างราคาของรถนั้นก็สามารถนำมาใช้เติมน้ำมันไปได้จนขายรถเลยแหละ ดังนั้นหากพิจารณาถึงประเด็นตรงนี้ความคุ้มค่าของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากลองใช้รถไฟฟ้ากับเค้าดูซักคัน หรือส่วนต่างราคารถไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณ การเปิดใจเลือกรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้านก็อาจทำได้อย่างสบายใจ แต่สำหรับคนที่ต้องการความประหยัดจริง ๆ แล้วล่ะก็ อาจจะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าเมื่อคิดค่าใช้จ่ายทั้งหมด ณ ตอนนี้แล้ว รถยนต์ไฟฟ้าคือคำตอบความประหยัดของคุณจริงหรือไม่?