ปัจจุบันโลกออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทในวิถีชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่การติดต่อค้าขาย ซื้อหาสินค้า และบริการต่าง ๆ ยิ่งช่วงโควิด-19 ระบาดก็ยิ่งทำให้การค้าขายออนไลน์ในประเทศไทยเฟื่องฟูเป็นเท่าตัว ธุรกิจหลายอย่างที่ไม่เคยเห็นบนโลกออนไลน์ ยังต้องมีการปรับมาขายแบบออนไลน์กันอย่างแพร่หลาย เพื่อความอยู่รอดและรองรับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป
แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะขายของออนไลน์ได้อย่างราบรื่น หรือได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าเสมอไป บางคนลองขายออนไลน์แล้ว แต่ประสบปัญหาต่าง ๆ มากมายทั้งไม่มีคนซื้อ หรือไม่มีคนมาดูไลฟ์เลย สิ่งเหล่านี้ทำให้หลายคนอาจท้อถอย ถอดใจไปเสียก่อน แต่หากคุณกำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ วันนี้ ไหนดี จึงนำเทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยให้ขายของออนไลน์ได้ปัง คนติดตามเยอะ สร้างรายได้ได้ตามต้องการ ลองไปดูรายละเอียดกันได้เลย
7 เทคนิคขายของออนไลน์ให้ปัง 2022
1. หาตัวตนของคุณให้เจอบนโลกออนไลน์
การค้าขาย หรือการจะให้คนมาติดตามเราบนโลกออนไลน์ ทั้ง ๆ ที่มีคู่แข่งเป็นจำนวนมาก ตัวเราเองหรือร้านของเราต้องสร้างจุดเด่นที่แตกต่าง และเป็นที่สนใจของลูกค้า เช่น
- หาตัวตนของเราหรือของร้าน ที่จะนำเสนอให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าประทับใจและให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยอาจเลือกแนวการทำคอนเทนต์เชิงให้ความรู้วิชาการ, การนำเสนอคอนเทนต์แนวดราม่ากินใจ หรือการนำเสนอ คอนเทนต์แนวตลกขำขัน เป็นต้น
2. มีความสม่ำเสมอและต่อเนื่องไปในทิศทางเดียวกัน
แน่นอนว่าระยะแรก ยอดคนติดตามหรือซื้อสินค้าอาจจะมีไม่มากนัก เพราะคนอาจจะยังไม่รู้จักเราหรือร้านของเรา โดยเราอาจจะต้องดำเนินการ ดังนี้
- ต้องอาศัยการลงคอนเทนต์อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
- คอนเทนต์จะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อสร้างตัวตนหรือภาพจำให้คนรู้จักและติดตามเรา
- ต้องสังเกตและเรียนรู้ว่า คอนเทนต์แบบไหนที่ลูกค้าชอบ เพื่อนำไปปรับปรุงต่อไป เพื่อเพิ่มยอดการติดตามของลูกค้าและการซื้อสินค้าที่เพิ่มมากขึ้น
3. เลือกสินค้าให้เหมาะสมต่อการทำการตลาดออนไลน์
ไม่ใช่ทุกสินค้าที่จะขายบนโลกออนไลน์ได้ ดังนั้นการทำยอดขายออนไลน์ให้ได้ดี และมีลูกค้าสนใจเยอะ เราจึงต้องเลือกสินค้าที่เหมาะสมที่จะนำมาขายด้วย เช่น
- หากเราเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้าง ของที่เหมาะสมก็อาจจะต้องเป็นเครื่องมือช่างหรือของตกแต่งบ้านที่จะนำมาขาย คงไม่มีเจ้าของบ้านคนไหนมาซื้อเหล็กเส้น, ซื้อปูน ฯลฯ แบบออนไลน์แน่นอน
4. เกาะกระแสให้เร็ว ตามกระแสให้ทัน
กระแสความนิยม หรือเทรนด์ต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ มักดังเร็ว และไปเร็ว ดังนั้นร้านของเราควรทำดังต่อไปนี้
- ต้องตามกระแสเหล่านั้นให้ทัน และทำคอนเทนต์ออกมาได้อย่างทันท่วงที เพื่อใช้กระแสนี้ในการโปรโมตสินค้าหรือโปรโมตร้าน
- หากช้าเกินไป ลูกค้าก็จะเกิดความเบื่อหน่ายและไม่สนใจ เพราะรู้สึกว่ามีคนเล่นคอนเทนต์นี้กันเยอะแล้ว
5. หาพาร์ทเนอร์มาร่วมโปรโมตร้านหรือสินค้า
ในยุคที่การแข่งขันสูงและรวดเร็วแบบนี้ การจะทำอะไรด้วยตนเองเพียงอย่างเดียว ถ้าแบรนด์ของเราไม่แข็งแกร่งจริงหรือตั้งมานานมีคนรู้จักเยอะ ก็อาจเป็นเรื่องลำบาก ดังนั้น ยุคนี้จึงเป็นยุคของหุ้นส่วนหรือ พาร์ทเนอร์ (Partner) ที่จะเข้ามาช่วยกันเสริมจุดด้อยและสร้างจุดแข็งของกันและกัน เช่น
- หาคนที่เริ่มมีผู้ติดตามบนโลกออนไลน์เยอะ มาช่วยโปรโมตร้าน หรือสินค้าเราอีกทางหนึ่ง
- ติดต่อไปยังร้านค้าอื่น ๆ เพื่อคิดสินค้าหรือโปรโมชันร่วมกัน
6. ลงทุนแผนการตลาดด้วย
การขายของออนไลน์ ไม่ใช่จะไม่มีต้นทุนเลย เพราะการขายออนไลน์เหมือนเราไปเปิดร้านบนช่องทางของคนอื่น เช่น Facebook, TikTok, Shopee, Lazada เป็นต้น ซึ่งช่องทางเหล่านี้ก็ได้มีการหารายได้ให้กับบริษัทตัวเองผ่านค่าโฆษณาเช่นกัน ดังนั้น
- ถ้าอยากให้ร้านของเราหรือสินค้าปรากฎให้เห็นบนโลกออนไลน์มากขึ้น ก็อาจต้องยอมลงทุนซื้อโฆษณาของช่องทางที่เราขายอยู่สักหน่อย เนื่องจากการโฆษณาจะสร้างการรับรู้ เพิ่มการติดตามบนโลกออนไลน์ ส่งผลให้สินค้าและบริการของเรามีผู้สนับสนุนมากขึ้น
7. เปิดช่องทางการเข้าถึงหลายช่องทาง แต่รวมเป็นหนึ่ง
ทุกวันนี้มีช่องทางออนไลน์ ให้เราได้เข้าไปขายสินค้า หรือโปรโมตร้านมากมาย ดังนั้น เราไม่ควรจะเลือกช่องทางใดช่องทางหนึ่งเพียงอย่างเดียว ควรกระจายไปหลากหลายช่องทาง เพื่อสร้างการรับรู้ และใช้ประโยชน์หรือโปรโมชันของช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกัน โปรโมตสินค้าของเราให้ได้มากที่สุด แต่เราก็ต้องวางระบบการบริหารจัดการที่ดี ที่จะรวมออเดอร์หรือตอบข้อซักถามของลูกค้าจากช่องทางทั้งหมดให้ได้ด้วย
